วันนี้ทางร้านจะมาพูดคุยถึงเรื่องของผ้าไหมในแง่มุมต่างๆตั้งแต่เรื่องความสวยงามของเนื้อผ้าไปจนถึงการตัดเย็บ ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้นในการตัดสินใจนะคะ
เรื่องของความสวยงามของเนื้อผ้านั้นก็จะขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวเป็นหลักเลยค่ะ ผ้าไหมไทยแท้จากแต่ละแหล่งล้วนแล้วแต่มีเอกลักษณ์และความสวยงามที่แตกต่างกันไป มีทั้งไหมเนื้อละเอียดที่ทอจากไหมเส้นเล็กมีความเงางามและมีขี้ไหมหรือปมไหมเพียงเล็กน้อย หรือว่าไหมเนื้อหยาบที่ความเงาน้อยกว่าแต่มีขี้ไหมหรือปมกระจายอยู่ทั่วทั้งผืน ขี้ไหมและปมไหมนี่แหละค่ะเป็นลักษณะเฉพาะตัวของไหมแท้ที่เลียนแบบได้ยาก
นอกจากนี้ผ้าไหมแท้ยังแบ่งประเภทตามเทคนิคการทอมือตามจำนวนของเส้นไหมพุ่งนั่นเองค่ะ ที่น่าจะเคยได้ยินกันบ่อยๆคือผ้าไหมทอมือสองเส้นและสี่เส้น คือมีไหมเส้นยืน 1 เส้นและมีไหมเส้นพุ่ง 2 เส้นหรือ 4 เส้นตามลำดับนั่นเองค่ะ จากประสบการณ์จะแนะนำให้เลือกใช้ผ้าไหมทอมือสี่เส้น ด้วยเนื้อผ้าที่หนากว่าช่วยให้ชุดที่ตัดออกมาสวยอยู่ทรงมากกว่าค่ะ
ผ้าไหมเทียมหรือผ้าไหมสังเคราะห์ที่ได้รับความนิยมอย่างมากคือ ผ้าไหมอิตาลีซึ่งมีจุดเด่นคือเนื้อผ้าที่มีความเหลือบและเงาวาว ไม่หนามากแต่อยู่ตัวสวยค่ะ ส่วนผ้าไหมปากีจะมีความเงาเล็กน้อย เนื้อผ้ามีปุ่มปมดูเป็นธรรมชาติคล้ายกับผ้าไหมแท้แต่ผิวสัมผัสจะหยาบกว่าค่ะ ผ้าไหมปากีมีเฉดสีให้เลือกน้อยกว่าและหาซื้อได้ค่อนข้างยากจึงได้รับความนิยมรองลงมาค่ะ
แน่นอนค่ะว่าผ้าไหมแท้ซึ่งทอมาจากเส้นใยธรรมชาติมีความโปร่งและนุ่มสบายมากกว่า มีการระบายอากาศได้ดีกว่า ทำให้สบายตัวเวลาสวมใส่ ถึงอากาศจะร้อนก็ยังไหวค่ะ ถ้าเปรียบเทียบเนื้อผ้ากันตรงๆแล้วผ้าไหมไทยใส่สบายกว่าค่ะ
แต่ในการตัดเย็บชุดไทยหรือชุดไปงานนั้นจำเป็นต้องอัดกาวผ้าไหมไทยก่อนเพื่อให้เนื้อผ้าอยู่ตัวดูสวยงามเวลาสวมใส่ ส่วนผ้าไหมอิตาลีไม่ต้องอัดกาวเพราะเนื้อผ้าค่อนข้างอยู่ตัวเป็นทรงอยู่แล้วค่ะ ถ้าเปรียบเทียบกันหลังตัดเย็บแล้วแทบจะไม่รู้สึกถึงความแตกต่างเวลาใช้งานจริงเลยค่ะ
จุดเด่นของไหมเทียมนอกจากราคาจะเป็นมิตรแล้ว การดูแลรักษายังทำได้ง่ายกว่ามากด้วยค่ะ สามารถซักรีดได้ตามปกติและไม่จำเป็นต้องส่งซักแห้งค่ะ
อย่างที่ทราบกันค่ะว่าผ้าไหมแท้ทอมือมีราคาสูงกว่าผ้าไหมเทียมหลายเท่า นอกจากนี้ยังมีความแตกต่างในเรื่องความกว้างของหน้าผ้าคือ ผ้าไหมแท้มีความกว้างของหน้าผ้ามาตรฐานอยู่ที่ 38-40 นิ้ว ในขณะที่ไหมเทียมอย่างไหมอิตาลีมีความกว้างของหน้าผ้าถึง 60 นิ้ว ดังนั้นผ้าไหมไทยจะต้องใช้ความยาวผ้ามากกว่าในการตัดเย็บชุดแบบเดียวกันนะคะ ค่าใช้จ่ายจะสูงขึ้นทั้งค่าแรงและค่าผ้าเลยค่ะ
สั่งตัดชุดผ้าไหม
ทางร้านมีบริการตัดชุดผ้าไหมค่ะ สามารถดูแบบชุดของทางร้านได้ตามลิงก์นี้นะคะ >> ชุดผ้าไหม
แบบชุดทั้งหมดของทางร้านที่ขึ้นงานเอาไว้จะตัดเย็บด้วยผ้าไหมอิตาลีนะคะ ลูกค้าสามารถสั่งตัดใช้ผ้าไหมอิตาลีตามแบบหรือเลือกใช้ไหมไทยก็ได้ค่ะ ( บางแบบอาจจะไม่เหมาะกับผ้าไหมไทยเนื่องจากข้อจำกัดของหน้าผ้าที่แคบทำให้วางแพทเทิร์นไม่พอค่ะ กรณีของชุดกระโปรงย้วยหรือชุดที่มีการวางผ้าเฉลียงจะต้องใช้ผ้ามากกว่าปกติและอาจจะต้องมีการตัดต่อผ้าเพิ่มเติมจากแบบเดิมด้วยค่ะ )
สำหรับลูกค้าที่ต้องการซื้อผ้าหรือนำผ้ามาเอง อาจจะสงสัยว่าต้องใช้ผ้ากี่หลา สามารถส่งไซส์ อก-เอว-สะโพก คร่าวๆพร้อมกับแบบชุดผ้าไหมที่ถูกใจมาสอบถามได้นะคะ ทางร้านยินดีให้คำปรึกษาค่ะ
สำหรับชุดไทยจิตรลดา ลูกค้าที่มีสัดส่วน อก-เอว-สะโพก ไม่เกิน 40 นิ้ว แนะนำให้ซื้อผ้าไหมแท้ 5 หลา ( 4.5 เมตร ) หรือผ้าไหมเทียม 2.5 เมตรค่ะ